วิธีเลือกวิตามินเอรักษาสิวแบบไหนดี สำหรับผิวหน้าสาวๆ

              จริงๆแล้วเรื่องของสิว ก็เป็นธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กันทุกคน แต่ธรรมชาติของผิวหน้าแต่ละคนนั้นแตกต่างกันค่ะ ดังนั้นสิวจึงส่งผลต่อใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย จึงมีหลายๆคนนั้นหันไปหายาหลายๆตัวมารักษามัน  และวิตามินที่หลายท่านเคยได้ยินนั้น ก็คือวิตามินเอรักษาสิว แต่ก็ยังคงสงสัยเจ้าวิตามินเอรักษาสิว กรดวิตามินเอ จะเป็นกรดวิตามินเอกินหรือกรดวิตามินเอแบบทาจนเกิดความสับสน ว่าอย่างไหนดีหล่ะ

                วิตามินเอรักษาสิว ที่ทุกคนว่านั้น เป็นอย่างไร ยากลุ่มกรดวิตามินเอคือกลุ่มยาที่มีชื่อทางเคมี คือ ไอโสเตรติโนอิน (Isotretinoin) หรือ เรติโนอิก แอซิด (Retinoic Acid) ซึ่งมีชื่อทางการค้าหลายอย่างเช่น โรแอคคิวเทน (Roaccutane) เป็นยาที่จัดให้เป็นยาควบคุมพิเศษซึ่งต้องจ่ายโดยมีใบสั่งยา และต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น มีสรรพคุณใน การลดการทำงานต่อมไขมันและต้านการอักเสบ ใช้รับประทานเพื่อการรักษาสิวหัวช้าง สิวที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ สิวอักเสบเรื้อรัง สิวที่เกิดจากความเครียด ซึ่งกรดวิตามินเอรักษาสิวมี 2 แบบด้วยกัน คือ กรดวิตามินเอแบบกินหรือกรดวิตามินเอแบบทาแต่ในบทความนี้ขอเน้นกล่าวถึงกรดวิตามินเอแบบทา อย่างเดียวนะค่ะ

                วิตามินเอรักษาสิวส่วนกรดวิตามินเอแบบทานั้น จะช่วยขจัดปัญหาสิวอุดตันได้โดยที่กรดวิตามินเอแบบทาจะซึมผ่านลงไปสู่รูขุมขนทำให้เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนหลวมตัว สิวอุดตันจึงหลุดออกมาง่ายขึ้น สิ่งที่คั่งค้างอุดตันจึงหลุดออกมาเร็วการใช้กรดวิตามินเอแบบทา จะต้องใจเย็นพอควร เพราะยาจะออกฤทธิ์ต่อเมื่อทาไปแล้ว 3-6 สัปดาห์ คนใจร้อนเมื่อทายาได้เพียง 5-6 วัน สิวไม่ดีขึ้นก็หยุดใช้ยา นับว่าเป็นความคิดที่ผิด ความจริงแล้วผู้เป็นสิวต้องเข้าใจว่าการรักษาสิวที่ถูกต้อง ตามหลักการแพทย์นั้นต้องใช้เวลาพอสมควร

     วิตามินเอรักษาสิว นั้นมีอยู่ 3 แบบ คือ เป็นเจล น้ำ หรือครีม กรดวิตามินเอแบบทา ทำให้ผิวหนังระคายเคือง แสบ แดง แห้งและลอกได้ กรดวิตามินเอในรูปของเจลจะทำให้หน้าแห้งและลอกออกได้มากที่สุด ส่วนกรดวิตามินเอในรูปครีมทำให้หน้าแห้งน้อยที่สุด

     การใช้วิตามินเอรักษาสิวกรดวิตามินเอควรทาเพียงบางๆ วันละครั้งก่อนนอน ไม่ต้องล้างหน้าก่อนทา เพราะยิ่งทำให้หน้าแห้งและระคายเคืองง่ายขึ้น นอกจากนั้น ในตอนเช้าควรทายากันแดดทั่วหน้าด้วย เพราะแสงแดดยิ่งทำให้ฤทธิ์การระคายเคืองของกรดวิตามินเอต่อผิวหนังสูงขึ้น วิตามินเอรักษาสิวนี้ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น